หน้ากากอนามัย เป็นอุปกรณ์ที่เราคุ้นเคยกันดีในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อต่างๆ หน้ากากอนามัยมีประโยชน์ในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากการไอ จาม หรือการพูดคุย โดยสามารถป้องกันทั้งตัวเราเองและผู้อื่น
หน้ากากอนามัยใช้กับอะไรบ้าง?
- ป้องกันการติดเชื้อ: ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคต่างๆ เช่น ไวรัส แบคทีเรีย เข้าสู่ร่างกายผ่านทางระบบทางเดินหายใจ
- ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ: ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคที่อยู่ในร่างกายของเราแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่น
- ป้องกันฝุ่นละอองและมลพิษ: ช่วยกรองฝุ่นละอองและมลพิษต่างๆ ที่อยู่ในอากาศ ไม่ให้เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ
วัสดุที่ใช้ทำหน้ากากอนามัย 3 ชั้น
หน้ากากอนามัย 3 ชั้น ที่เราเห็นกันทั่วไป มักประกอบด้วยวัสดุหลายชนิดเรียงซ้อนกัน เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการกรองและป้องกันได้ดี โดยทั่วไปแล้ว หน้ากากอนามัย 3 ชั้น จะมีโครงสร้างดังนี้
- ชั้นนอก: มักทำจากวัสดุไม่ทอ (Non-woven fabric) ที่มีความทนทาน ช่วยป้องกันละอองน้ำขนาดใหญ่ และสิ่งสกปรก
- ชั้นกลาง: เป็นชั้นกรองหลัก มักทำจากวัสดุ Meltblown ที่มีรูพรุนเล็กมาก ช่วยกรองอนุภาคขนาดเล็ก เช่น เชื้อไวรัสได้ดี
- ชั้นใน: มักทำจากวัสดุไม่ทอเช่นเดียวกับชั้นนอก ช่วยดูดซับความชื้นจากลมหายใจ และสัมผัสกับผิวหน้าได้อย่างนุ่มนวล
หมายเหตุ: ประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของวัสดุ จำนวนชั้น และการออกแบบ ดังนั้น ควรเลือกใช้หน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับการใช้งาน
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- เลือกขนาดที่พอดี: หน้ากากอนามัยควรแนบสนิทกับใบหน้า ปิดปากและจมูกมิดชิด
- เปลี่ยนหน้ากากอนามัยเป็นประจำ: ควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยเมื่อเปียกชื้น หรือสกปรก
- ทิ้งหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี: หลังจากใช้งานแล้ว ควรทิ้งหน้ากากอนามัยในถุงขยะปิดสนิท